เราจะเห็นได้ว่า ช่วงนี้แม้แต่งานประจำที่ว่ามั่นคงก็ยังคงระส่ำระส่าย หลายบริษัทเลย์เอ้าท์พนักงานออก บางคนทำงานมาหลายปี มีฐานเงินเดือนสูง มีภาระครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ต้องดูแล ต้องส่งลูกเรียน ไหนจะต้องผ่อนบ้านผ่อนรถอีกสาระพัด
ดังนั้น การทำงานที่หวังเพียงเงินเดือนก้อนเดียวที่จะได้ในแต่ละเดือนอาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตอีกต่อไป ด้วยค่าครองชีพที่เพิ่มสุงขึ้นทุกวัน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมันก็ขยับฐานขึ้นไปแบบไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย
หลายคนมองหาไอเดียธุรกิจเสริม เพิ่มช่องทางหารายได้พิเศษหลังเลิกงาน บางคนทำอาชีพเสริมจนรายได้แซงเงินเดือนไปแล้ว สามารถลาออกมาทำเต็มตัวได้
ซึ่งอาชีพเสริมก็มีมากมายแล้วแต่เราถนัด
วันนี้ปริญญาชีวิตเห็นบทความหนึ่งซึ่งน่าสนใจมากเลยนำมาฝาก
เป็นเรื่องราวของสวนอินทผลัม999 ของคุณสุ เพชรบุรี เลขที่ 99 หมู่ที่ 7 ต.วังตะไคร้ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เป็นสวนที่ปลูกแบบเพาะเนื้อเยื่อกว่า 2 พันต้น ที่คุณ ภิลชณัฎฐ์ ติตะพานิชย์ หรือคุณสุ เจ้าของสวน เดิมเป็นคน จ.สมุทรสาคร สุขภาพไม่ค่อยดี หมอเลยแนะนำให้ไปอยู่ต่างจังหวัดที่อากาศดีๆ
คุณสุเลยนำเงินสะสมมาซื้อที่ดิน 35 ไร่ ตั้งแต่ปี 2561 และนำเข้าต้นพันธุ์อินทผลัมจากต่างประเทศ ที่ได้จากการเพาะเนื้อเยื่อมาปลูก
ทำให้ได้ต้นที่ไม่กลายพันธุ์ เนื้อดี รสหวานแหลม กรุบกรอบ
สีแดงชื่อพันธุ์โคไนซี่
สีเหลืองพันธุ์บาฮี จำนวน 1,200 ต้น
จนปัจจุบันขยายเนื้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 60 ไร่ กับอินทผลัม 2 พันต้น
แต่ละปีให้ผลผลิตเฉลี่ยน 50 – 70 ตัน
ซึ่งราคาสูงถึง 200 – 600 บาทต่อ กก.เลยทีเดียวค่ะ ราคาดีมากๆ
เปิดขายทั้งช่องทางออนไลน์ และเปิดสวนให้นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อถึงสวน รวมถึงส่งออกต่างประเทศอีกด้วย ในโซนเอเชีย และตะวันออกกลาง
ปีหนึ่งทำรายได้ถึง 20 ล้านเลยทีเดียว
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ แต่ถ้าถามว่าหากเราทำจะเป็นไปได้ไหม แอดมินเชื่อว่าเป็นไปได้ค่ะ ขอเพียงแต่เราจับจุด ทดลองทำในสิ่งที่เราตั้งใจไว้ไปเรื่อยๆ เรากอาจจะมีวันที่ประสบความสำเร็จได้เหมือนเจ้าของสวนท่านนี้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ
ขอบคุณข้อมูล ข่าวสด
เรียบเรียงโดย ปริญญาชีวิต