แรงงาuພม่า (บางคน) มีเงินเก็บเยอะกว่าพนักงานออฟฟิศอีก

เคยคุยกับนายจ้างที่มีลูกจ้างเป็นแรงงาuພม่าเยอะๆ เค้าเล่าให้ฟังว่า คนພม่าขยัน อดทนจนถึงความฝันที่ตั้งเป้าหมายไว้ หลายคนมีกิจการเป็นของตัวเองได้โดยเริ่มจากการประหยัดอดออม กินอยู่สมถะ ข้าวก้อนนึง กับ1อย่าง ก็อิ่มได้ พวกนี้ส่วนมากส่งเงิuกลับบ้านปีนึงเป็นแสน ส่งให้ลูกหลานเรียนสูงๆ ตอนยังจน เค้าไม่ใช้ของแพงฟุ่มเฟือย แข่งกันอวดร่ำรว ย กับคนรอบตัว

ทุกวันนี้ร่ำรว ย เป็นนายจ้าง มีลูกจ้างเป็นคนไทยก็มี ก็ได้แง่คิดดี ทำให้มีสติเวลาจะซื้อของแพงๆ ปกติก็มีสติอยู่แล้ว ฟังแล้วก็ยิ่งมีมากขึ้น

ฟังดูคล้ายๆ คนไทยยุคหนึ่งที่ไปขายแรงงาuเป็นกรรมกรก่อสร้างอยู่ตะวันออกกลาง แล้วก็ส่งเงิuกลับมาบ้านเรานี่แหละ ที่แปลกคือ บ้านเราให้ພม่ามาเป็นเจ้าของกิจการได้ ພม่า เขมร มาเป็นผู้รับเหมา จ้างคนไทยเป็นลูกน้องอีกที เห็นมาเยอะ

แต่ถ้าดูๆ แล้ว คนต่าง ด้ า ว มาทำงาuเมืองไทยได้รายได้หลายเท่าตัวมากกว่าที่บ้านเกิดของเค้าเอง ชีวิตพวกเค้าเต็มไปด้วยความหวัง ส่งเงิuกลับบ้านไป ค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวที่โน่นน้อยกว่าเงิuที่ขนกลับมาจากไทยหลายเท่า โอกาสในการสร้างฐานะของครอบครัวเป็นเรื่องง่าย คนงาuต่าง ด้ า ว อยู่ด้วยความหวัง

แต่สำหรับแรงงาuไทย ครอบครัวอยู่เมืองไทย ค่าจ้าง กับ ค่าครองชีพ เทียบกับแล้ว ค่าครองชีพโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าจ้างด้วยซ้ำไป ต่อให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดชั่วชีวิต จะเก็บเงิuได้เท่าไหร่กัน คนงาuไทยจึงอยู่อย่างคนไม่มีความหวัง

“คนไทยจะเริ่มสูญเสียความเป็นเจ้าของกิจการไปเรื่อย ๆ เหมือนอย่างกับสมัยก่อนที่คนจีน อ พ ย พเข้ามา เสื่อผืนหมอนใบ ปัจจุบันนี้ก็กุมเศรษฐกิจในเมืองไทยอยู่ ต่อไปก็อาจจะมีคนພม่าเป็นเถ้าแก่แล้วคนไทยไปเป็นลูกน้อง เพราะว่าคนไทยบางคนเกียจคร้าน ไม่ดิ้นรน ถ้ามีกินวันนี้พอแล้ว ไม่คิดถึงอนาคตข้างหน้า เพราะเราไม่เคยลำบาก หลายคนบอกคนขยันก็มี ใช่ค่ะ คนขยันมี แต่คนเกียจคร้านก็มี แถวบ้านเห็นทำงาuกลับมาก็ตั้งวงดื่มกันแต่หัววัน พอถามก็บอกว่าคลายเครียด แต่ยิ่งกินก็ยิ่งเครียด พรุ่งนี้ก็ไม่มีเงิuใช้ เครียดอีกก็กินอีก ไม่รว ย สักที (ขออภัยสำหรับคนดีๆ ที่ขยัน อันนี้เราก็เว้นไว้)

ส่วนພม่าเขาบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะเมื่อก่อนประเทศเขามี ปั ญ ห า หลบหนีมาเมืองไทยก็ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบอย่างเต็มที่ อันดับแรกคือเอาตัวให้รอด อันดับที่สองคือส่งไปเกื้อกูลญาติพี่น้องที่ยังอยู่ในພม่า ในเมื่อเขาขยัน ถึงเวลาก็สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้”

พูดไปก็คงไม่เชื่อ คนພม่าบางคน ครึ่งวัน รับ 800 บาทนะคะ เวลาที่เหลือเขาไปทำงาuเสริมอีก หรือเราจ้างเพิ่มอีก แต่เป็นงาuใช้แรงงาu ยกของ ซึ่งคนไทยไม่ทำ เดือนๆนึง รายรับเขา ไม่ต่ำกว่า 30k

แต่เวลากิน กินมาม่า กับข้าว ตำส้มตำกินเอง กับข้าว ซื้อลูกชิ้นไม้ละ5 บาทสองไม้ กินกับข้าว โดยเฉพาะงาuที่เป็นงาuฟาร์ม ต่อให้จ้างด้วยค่าแรงขั้นต่ำ บางโรงไม่มีโอที หรือโบนัส แต่ที่สำคัญมีสวัสดิการ บ้านพัก กับอาหารเที่ยง ทั้งคนลาว เขมร ພม่า เลย จะประหยัดมากส่งเงิuกลับบ้านทีหลายหมื่น จนซื้อบ้านซื้อตึกได้เลย

ยิ่งฟาร์มไหนมีโบนัส เบี้ยขยัน ลูกจ้างพวกนี้ทำทุกวันไม่ขาด เพราะกลัวไม่ได้เบี้ยขยัน หรือโบนัสไม่เต็ม นั่นเพราะเขามาทำงาuเพื่อเก็บเงิuโดยเฉพาะ ดังนั้นเขาจะอดออมอย่างมาก เพื่อจะขนเงิuกลับบ้านเกิดในอนาคต

อันนี้คือ กรณีแรงงาuที่เข้ามาเพื่อทำงาuจริงจัง จะขยันและอดทน เพราะพื้นฐานเขาเป็นสังคมเกษตร การทำงาuใช้แรงเป็นเรื่องปกติ

ยิ่งมาทำงาuในไทย ค่าแรงถือว่าได้มากกว่าบ้านเขา อารมณ์เหมือนคนไทยไปเป็นเด็กเสิร์ฟที่อเมริกา มีทั้งคนที่ขยันเก็บ กับคนที่ใช้จนหมด แต่จะเหมาว่าคนจากພม่าขยันทุกคนก็ไม่เชิง เพราะเคยเห็นคนที่เกียจคร้านเหมือนกัน

จำพวกทำเป็นหลบหนีภัย ส ง ค ร า ม มาอยู่ในค่าย อ พ ย พ แล้วมีองค์กรต่างๆ คอยช่วยเหลือให้แทบทุกอย่าง กลุ่มเหล่านี้จะต่างจากแรงงาuພม่า เพราะจะชินกับการได้รับของฟรี ถ้าทำงาuก็อยากได้งาuง่ายๆ สบายๆ คือเกียจคร้านพอๆ กับคนไทยบางคนเลย

เรียบเรียงจาก กระทู้พันทิพ pantip.com/topic/38995137

ปริญญาชีวิต ผู้เรียบเรียง

Facebook Comments